เงินฉุกเฉิน: ควรมีเท่าไรและวิธีการออมที่ดีที่สุด

a jar of money on a table

เงินฉุกเฉินเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยกะทันหัน การซ่อมแซมบ้าน หรือแม้กระทั่งการตกงาน แต่คำถามที่พบบ่อยคือ “ควรมีเงินฉุกเฉินเท่าไร?” และ “วิธีการออมที่ดีที่สุดคืออะไร?” บทความนี้จะช่วยคุณตอบคำถามเหล่านี้ พร้อมแนะนำแนวทางการจัดการเงินฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด


เงินฉุกเฉินคืออะไร?

เงินฉุกเฉินคือเงินสำรองที่จัดเก็บไว้เพื่อใช้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ เช่น:

  • การซ่อมแซมยานพาหนะหรือบ้าน
  • ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้
  • การสูญเสียรายได้กะทันหัน

การมีเงินฉุกเฉินช่วยให้คุณสามารถรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ได้โดยไม่ต้องก่อหนี้เพิ่ม หรือส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายประจำวัน


ควรมีเงินฉุกเฉินเท่าไร?

1. หลักการ 3-6 เท่าของรายจ่ายรายเดือน

คำแนะนำทั่วไปคือการมีเงินฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งช่วยให้คุณมีเวลาเพียงพอในการจัดการสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่คาดคิด

ตัวอย่างการคำนวณ:

  • ค่าใช้จ่ายรายเดือน: 20,000 บาท
  • เงินฉุกเฉินที่ควรมี: 60,000-120,000 บาท

2. ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ส่วนตัว

จำนวนเงินฉุกเฉินที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับ:

  • ความมั่นคงของงาน
  • จำนวนนายจ้างหรือแหล่งรายได้
  • ความเสี่ยงด้านสุขภาพหรือทรัพย์สิน

วิธีการออมเงินฉุกเฉิน

1. เปิดบัญชีออมเงินแยกต่างหาก

การเก็บเงินฉุกเฉินในบัญชีแยกจากบัญชีหลักช่วยลดความเสี่ยงที่จะนำเงินไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น ควรเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่สามารถถอนเงินได้ง่ายในกรณีฉุกเฉิน

2. ตั้งเป้าหมายการออม

การตั้งเป้าหมายชัดเจนช่วยให้คุณมีแรงจูงใจในการเก็บเงิน เช่น:

  • ออมเดือนละ 10% ของรายได้
  • เก็บเงินจำนวน 100,000 บาทภายใน 1 ปี

3. ใช้ระบบออมเงินอัตโนมัติ

ตั้งค่าระบบหักเงินเข้าบัญชีเงินฉุกเฉินโดยอัตโนมัติทุกเดือน วิธีนี้ช่วยให้คุณออมเงินได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ลืมหรือเลื่อนการออมออกไป

4. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ค่าอาหารนอกบ้าน หรือของฟุ่มเฟือย และนำเงินส่วนนี้มาออมแทน

5. ใช้แอปพลิเคชันช่วยบริหารเงิน

แอปพลิเคชันการเงิน เช่น Money Manager, YNAB, หรือ Mint ช่วยให้คุณติดตามและจัดการการออมได้ง่ายขึ้น


ข้อควรระวังในการออมเงินฉุกเฉิน

  • อย่าเก็บเงินทั้งหมดในที่เดียว: กระจายเงินฉุกเฉินในบัญชีธนาคารหลายแห่ง เพื่อป้องกันความเสี่ยง
  • อย่าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง: เงินฉุกเฉินควรอยู่ในที่ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น บัญชีออมทรัพย์ ไม่ควรนำไปลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
  • ตรวจสอบสถานะการออมเป็นประจำ: ทบทวนจำนวนเงินฉุกเฉินทุก 6 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่ายอดเงินยังเหมาะสมกับค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน

สรุป

การมีเงินฉุกเฉินเป็นหนึ่งในเสาหลักของการวางแผนการเงินที่มั่นคง ไม่เพียงช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันได้ แต่ยังลดความเครียดทางการเงินในระยะยาว เริ่มต้นออมเงินฉุกเฉินวันนี้ ด้วยวิธีการที่เหมาะสมและมีวินัย คุณจะสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเองและครอบครัวได้ในทุกสถานการณ์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top